เร็วๆ นี้ได้มีการหยิบยกเรื่องโลกร้อนกันอีกครั้ง โดยมีการประชุมระดับโลกกันที่ประเทศอาร์เจนตินา ก่อนหน้านี้ประชุมกันที่ญี่ปุ่น สาระสำคัญคือ
ก๊าซโอโซนกำลังถูกทำลายอย่างมาก จนทำให้โลกร้อนขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง
ปัญหาสำคัญคือ การปล่อยก๊าซ พิษต่างๆ จากโรงงานอุตสาหกรรม การตัดไม้ทำลายป่า เป็นต้น ที่สำคัญการใช้สารฟลูออโรคาร์บอน หรือรู้จักกันว่าสารซีเอฟซีสารนี้ มีการประชุมเพื่อป้องกัน ชั้นบรรยากาศโอโซนเรียกว่า พิธีสารมอนทรีออล ว่าด้วยการยกเลิกการใช้สารทำลายชั้นบรร-ยากาศโอโซ ในต่างประเทศเองส่วนใหญ่เลิกใช้สารซีเอฟซีกันหมดแล้ว แต่ประเทศไทยยังใช้อยู่ในปริมาณร้อยละ 1 ของสารซีเอฟซีที่ใช้ทั่ว โลก ทราบว่าปีหน้าไทยเองจะยกเลิกเช่นกัน
สารซีเอฟซีนั้นประมาณร้อยละ 33 ของปริมาณทั้งหมด ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็นเพื่อใช้ในตู้เย็น ตู้แช่เย็น และเครื่องปรับอากาศทั้งในอาคารและในรถยนต์ ร้อยละ 25 ใช้ทำความสะอาดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และร้อยละ 42 ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ มองแค่ตู้เย็นผลิตประมาณปีละ 1.3 ล้านเครื่อง ใช้สารซีเอฟซีประมาณ 260 ตันต่อปี
ยังมีอุตสาหกรรมที่ใช้สารไฮ-โดรคลอโรฟลูออโรคาร์บอน เอชซีเอฟ และไฮโดรฟลูออโรคาร์บอนหรือ เอชเอฟซี สามารถทำลายบรรยากาศชั้นโอโซนได้เช่นกัน เอชซีเอฟ ทำลายโอโซนได้นาน 5 ปี ส่วนซีเอฟซี ทำลายโอโซนได้นานถึง 25 ปี ส่วนเอชเอฟซี ไม่ทำลายชั้นของโอโซนเพียงแต่ปิดกั้นพลังงานความร้อนเท่านั้น
ประการต่อมาสารคาร์บอนไดออกไซด์ มีการพบว่า ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณครึ่งหนึ่ง เกิดจากการตัดไม้ ทำลายป่าบนพื้นที่ประมาณ 6 แสนไร่ ตรงนี้น่าจะรับฟังได้ เพราะป่าไม้ของไทยถูกทำลายปีละ 1 ล้านไร่ จนจะหมดอยู่แล้ว ผลที่เกิดก็คือเนื่อง จากต้นไม้จะดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไป ตอนมีการสังเคราะห์แสงในเวลากลางวัน และปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ออกมาในเวลากลางคืน
แต่ที่แนวโน้มน่ากลัวกว่าเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่มาจากโรงงานอุตสาหกรรมและท่อไอเสียจากรถยนต์ เพราะการพัฒนาประเทศนั้นมีแต่เพิ่มมากขึ้น ในการขับขี่ยานพาหนะ ขณะนี้ประเมินว่ามี 1.88 ล้านคันทั่วประเทศ จะมีก๊าซออกมา 10 กิโลกรัม ต่อเชื้อเพลิง 4 ลิตร หากมีการขับขี่ยานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิง 4 ลิตรต่อคัน ก็จะปล่อยคาร์บอนไดออก ไซด์ออกมา 18,800 ตัน สำหรับในการผลิต กระแสไฟฟ้าขนาด 100 วัตต์ เป็นเวลา 10 ชั่วโมง ต้องใช้ถ่านหินหนัก ครึ่งกิโลกรัม ซึ่งจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่บรรยากาศ มีปริมาณเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า หรือ 1.4 กิโลกรัม อีกทั้งการเผาไหม้ถ่านหิน และเชื้อเพลิงยังปล่อยซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ซึ่งเป็นมลพิษทางอากาศและ เป็นหมอกควันที่ป้องกันแสงอาทิตย์ทั้งยังปิดบังเรือนกระจก ซึ่งจะทำให้บรรยากาศเกิดการเย็นลงได้
สารอันตรายอีกตัวคือ ไนตรัสออกไซด์ ซึ่งสะสม อยู่ในปุ๋ยเคมีและถ่านหิน ถ้าจะลด หมายความว่า การใช้ปุ๋ยไนโตรเจนต้องน้อยลงหรือหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์จากธรรมชาติ ส่วนการผลิตไฟฟ้าโดยใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงอย่างที่เหมืองแม่เมาะ จ.ลำปาง ก็ต้องหาวิธีทำให้ถ่านหินสะอาด
อันตรายของมันคือ ไนตรัสออกไซด์จะดูดความร้อน ไว้ได้นับร้อยๆ ปี เพราะโมเลกุลของก๊าซนี้สามารถดูดความร้อนไว้ได้นาน กว่าโมเลกุลของคาร์บอนไดออกไซด์ถึง100 เท่า แต่ไนตรัสออกไซด์ ทำลายโมเลกุลของโอโซนได้น้อยกว่าซีเอฟซีร้อยละ 25
ก๊าซมีเทนก็มีส่วนอย่างมาก สาเหตุหลักมาจาก การตัดไม้และการเผาป่า นอกจากนี้การทำนาข้าว การเลี้ยงวัวควาย การถมขยะ การทำเหมืองแร่ และการผลิตถ่านหิน อย่างการปลูกข้าว เกิดก๊าซมีเทน เนื่องจากแบคทีเรียที่อยู่ในดินเป็นตัวปล่อยมีเทน การเลี้ยงวัวควายก่อให้เกิดมี-เทน เนื่องจากแบคทีเรียใน กระเพาะอาหารของสัตว์กินหญ้าประเภทวัว ควาย แพะ แกะ อูฐ จะย่อยอาหารและปล่อยมีเทนออกมาด้วย
มีการศึกษาพบในแต่ละวันวัว 1 ตัว เรอมีเทนออกมาถึง 0.5 ปอนด์ ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาไทยมีวัว ควายประมาณ 11 ล้านตัว แต่ละตัว จะเรอนาทีละหลายครั้ง หากวัวควายเรอเพียงนาทีละครั้ง จะมีปริมาณ ก๊าซมีเทนออกมา 5.5 ล้านปอนด์ มีเทนที่เก็บพลังงานความร้อนเอาไว้ ขณะนี้จะเก็บความร้อนไว้ได้นานกว่า10 ปี และเก็บความร้อน ไว้นานกว่าโมเลกุลของคาร์บอนไดออกไซด์ มีเทนสามารถ เก็บพลังงานความร้อนเอา ไว้ขณะนี้ไปจนถึงระยะเวลานาน 10 ปี และเก็บความร้อนไว้นานกว่าโมเลกุลของคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 20 เท่า
ตัวทำลายโอโซนดังกล่าวนี้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงโลกอย่างมาก นอกจากอากาศบนโลกจะร้อนขึ้นและสุขภาพอนามัย โรคภัยไข้เจ็บ จะตามมาอีกมาก การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองเพื่อมีชีวิตรอด ก็ต้องแสวงหากันอีก นอกจากนี้ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพืชและสัตว์ก็มากด้วย ระบบชีวิตของมันต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลง ถึงขั้นสูญพันธุ์ไปเลยก็เป็นได้ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ผลที่จะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น เพราะก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาจากขั้วโลกกำลังละลายลงมา สู่ทวีปยุโรป และดินแดนที่มนุษย์ อาศัยอยู่ วิเคราะห์กันว่าบริเวณของโลกที่อยู่ในระดับต่ำมากๆ อาจจะ สูญหายไปจากแผนที่โลกเพราะน้ำท่วมหมดสิ้น
หากว่ากันแล้วมนุษย์นี่เองที่เป็นตัวทำลายโอโซน แต่จะบอกว่าใคร ปล่อยมากปล่อยน้อย ไม่ใช่สาระสำคัญ แต่ประเด็นอยู่ที่ทุกคนต้องช่วยกันดูแลบ้านของตัวเองว่า จุดไหนที่ปล่อยสารพิษทำลายโอโซนต้องช่วยกันทำให้ลดลง เพื่อจะได้อยู่ในโลกนี้ได้ยาวนาน
แต่สำหรับพวกเราแล้ว สิ่งที่น่าจะทำกันได้ อย่างเช่น การลดการใช้ สารซีเอฟซีที่มีอยู่ในตู้เย็น ตู้แช่เย็น เครื่องปรับอากาศคือ การใช้แปรงทาสีแทนที่จะใช้กระป๋องฉีดสเปรย์ ใช้เครื่องปรับอากาศ เท่าที่จำเป็นแล้วหันมาใช้พัดลม เปิดหน้าต่างและสวม เสื้อผ้าบางๆ นอกจากนี้เครื่องปรับอากาศที่ไม่ใช้แล้ว ก็จะต้องมีวิธีการทำลายที่ดี เพื่อป้องกันการรั่วไหลของสารซีเอฟซี สู่ชั้นบรรยากาศ
สำหรับการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากท่อไอเสียรถยนต์ ทำได้โดยใช้รถรวมกันเมื่อเดินทางไปในที่เดียวกันหรือใกล้เคียงกันครั้งละหลายๆ คนหรือที่รัฐบาลโดยสพช. กำลังรณรงค์กันอยู่ ขณะนี้คือ CAR POOL การขับขี่ยานพาหนะที่ประหยัด น้ำมันเชื้อเพลิง การสัญจรโดยการเดิน หรือเดินทางโดยรถจักรยาน หรือโดยสารรถประจำทาง
การเพิ่มปริมาณขยะทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้น เนื่องจากการทับถมของขยะมากขึ้น ทำให้คาร์บอนไดออกไซด์ถูกกำจัด โดยธรรมชาติน้อยลง การใช้เครื่องใช้ที่ประหยัดพลังงาน ทำบ้านให้ปลอดโปร่ง ใช้พลังงานธรรมชาติ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ และลม ทำให้ไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา การใช้ก๊าซธรรมชาติแทนถ่านหิน และน้ำมันเชื้อเพลิงในโรงงาน และการผลิตกระแสไฟฟ้าทำให้ปล่อยคาร์บอน-ไดออกไซด์ออกมาน้อยลง
นอกจากนี้ การป้องกันการปล่อยมีเทนออกสู่บรรยากาศทำได้โดย ลดปริมาณขยะและนำขยะมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และลดการเผาต้นไม้ในป่า และตามทุ่ง นอกจากนี้ยังควรพยายามที่จะนำมีเทนที่ เกิดจากการถมขยะ และการทำเหมืองแร่ถ่านหินมาใช้เป็นเชื้อเพลิง คาร์บอนไดออกไซด์และมีเทนเป็นก๊าซที่เก็บความร้อนบนโลก ยิ่งมีก๊าซมากก็จะเก็บความร้อนไว้มาก
โอโซนถือเป็นชั้นบรรยากาศที่จำเป็นสำหรับมนุษย์และสรรพ สิ่ง หากพวกเรายังคงทำลายอากาศ บริสุทธิ์ ที่เรียกว่าบรรยากาศชั้น โอโซนแล้ว โลกใบนี้จะเกิดวิบัติต่อสรรพสิ่งทันตาเห็น
วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2550
ภาวะโลกร้อน
วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2550
โลกที่ทันสมัย
Nokia N80 - โนเกียขนาด : 95.4 x 50 x 26 มิลลิเมตรน้ำหนัก 134 กรัม
ข้อมูลทั่วไป Nokia N80- Make yourself at home -เชื่อมต่อสเตอริโอได้
* ข้อมูลแคตตาล็อกเปิดตัวล่วงหน้า [ โปรดอ่าน ]- Preliminary information -
เปิดตัวครั้งแรก 2 พฤศจิกายน 2005
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 2 ปี 2006 (พฤษภาคม 49)
ราคาเปิดตัว 25,090 บาท (พฤษภาคม 49)
ภาพยนตร์โฆษณา Nokia Nseries - โนเกีย
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Dualmode - WCDMA / Quadband - GSM
จอแสดงผล TFT-LCD 262,144 สี - 352 x 416 พิกเซล (2.1")
ปุ่มควบคุม 5 ทิศทาง (5 ways Navi-Key)
ระบบปฎิบัติการ Symbian OS - Series 60 Platform - S60 software: S60 3rd edition, Feature Pack 1
ระบบปฎิบัติการ Symbian OS - Series 60 Platform - S60 software: S60 3rd edition, Feature Pack 1
เสียงเรียกเข้า MP3, 64-polyphonic (เครื่องดนตรี 64 ชิ้น)- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
หน่วยความจำ 40 เมกะไบต์ (ตัวเครื่อง) - การ์ดหน่วยความจำ 128 MB miniSD card slot (สูงสุด 2 GB)
ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)- Wi-Fi/WLAN 802.11b และ UPnP (Universal Plug and Play) - อินฟราเรด IrDA , บลูทูธ Bluetooth™ , USB 2.0
ใช้งานอินเตอร์เน็ต Nokia web, WAP 2.0 Browser
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)- อีเมล์ พร้อมไฟล์แนบ (Email with Attachment)- MMS, EMS, SMS ผ่าน EGPRS, GPRS
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0
จุดเด่น (Feature)
เลนส์กล้องหลัง : 3 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช (anti red-eye)- แสดงผลแนวนอนแบบเต็มหน้าจอ (Full-screen Landscape)- โหมดถ่ายภาพระยะใกล้ 17.5-23.4 ซม. (Close-up mode) - ขนาดภาพสูงสุด 2048 x 1536 พิกเซล (Image size) - ซูมดิจิตอล 20 เท่า (20x Digital zoom) - โหมด : ปรับโทนสี (Effect), ปรับความสว่าง (Brightness) - โหมดถ่ายภาพกลางคืน (Night mode)- โหมดเอฟเฟค (Normal, sepia, black & white, negative)
เลนส์กล้องหน้า VGA 640 x 480 พิกเซล ซูมดิจิตอล 2 เท่า
บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (CIF Video mode) - ขนาดวีดีโอ 352 x 288 (CIF) 176 x 144 (QCIF) และ 128 x 96 (SubQCIF) - 15 เฟรมต่อวินาที
โปรแกรมตกแต่งภาพและวีดีโอ (Video & Photo Editor)
เครื่องเล่นวีดีโอ, MP3 (Realplayer Media Player)
วิทยุ FM Stereo พร้อม Visual Radio
โทรออก, สั่งงานด้วยเสียง (Voice dial & command) - บันทึกเสียงสนทนา (Voice recording)- แฮนด์ฟรีในตัว (Built-In Handsfree)
ออร์กาไนเซอร์ - จดบันทึก, สิ่งที่ต้องทำ (To-Do list)
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-Ion 820 mAh (Standard Battery)
เปิดรอรับสาย 192 ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง 180 นาที (Talk Time)
Nokia N-Series Club & Community [N80-N91-N70-N90]ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นของคุณกับ Nokia N80 [PIC & VOTE]
วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2550
ให้เพื่อนทุกคนเจ้า
อย่าเสียดาย วันเวลา ที่เคยเจ็บ
เธอจงเก็บ เอาไว้ ใช้ภายหลัง
ปล่อยความเจ็บเก็บเอาไว้ให้พลัง
ยามผิดหวัง นึกทุกครั้ง
เคยเจ็บมากอย่าเพิ่งบอก
ว่าไม่ใช่ ไตร่ตรองดู
สิ่งที่เธอ รับรู้ อาจไม่ใช่
ซึ่งรู้จัก กันมา นานเท่าไร
ไปฟัง คำของใคร ใส่ร้ายกัน จะตาย
ไปทะเล กันดีกว่าให้คลื่นลม
มันช่วยพา ความสดใส
เอาความเหนื่อย ความล้า ปาไปไกล
นอนหาดทราย ด้วยกัน นะพวกเรา
นี้มันร้อน นอนไม่ได้
ร้อนข้างนอก แค่ร้อนกาย ยังเกินข่ม
ยังร้อน ข้างใน ใจระทม
เปิดพัดลม เปิดแอร์ ยังแย่เลย
ผิดเอง ที่ไม่เคย ดูแลเธอ
ทำตัวเป็น คนมาดเซอร์ ที่เซ่อซ่า
ต้องเห็นเธอ เสียใจ เสียน้ำตา
ฉันมันคน ไม่เข้าท่า น่ารำคาญ
เอาใจใส่ ดูแล เทคแคร์เธอ
ที่เจอ คือชาเย็น อยู่อย่างนี้
ถามตรงตรง ว่าฉันคง ทำไม่ดี
หรือว่าทุก นาที ไม่มีใจ
ฉันนับหนึ่ง ถึงร้อย ค่อยเย็นใจ
เธอทำผิด อีกเมื่อไหร่ ก็ไม่ว่า
ผิดทุกวัน จนใจฉัน มันชินชา
มีไม่มี ก็เหมือนว่า ค่าเท่ากัน
จะเก็บใจ ไว้ให้ใคร ที่ไม่รู้
จะเก็บใจ ไว้ให้ใคร ที่ไม่รู้
จะซ่อนใจ ไม่ได้ดู ไม่ให้เห็น
จะรักษา มันไว้ อย่างใจเย็น
เพราะรอให้ เธอมาเป็น เจ้าของใจ
วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2550
ถึงใจผูกพันธ์
- อย่าเสียดาย วันเวลา ที่เคยเจ็บ
เธอจงเก็บ เอาไว้ ใช้ภายหลัง
เปลี่ยนเป็นความเจ็บ เก็บเอาไว้ ให้พลัง
ยามผิดหวัง นึกทุกครั้ง เคยเจ็บมา
มีสายฝน เป็นเพื่อน เตือนใจว่า
แม้ฝนฟ้า ยังโรยรา ยามฟ้าใส
ในชีวิต อาจมีบ้าง ที่พลั้งไป
ทางข้างหน้า ฟ้าสดใส ได้เหมือนเดิม
อย่าเพิ่งบอก ว่าไม่ใช่ ไตร่ตรองดู
สิ่งที่เธอ รับรู้ อาจไม่ใช่
เรารู้จัก กันมา นานเท่าไร
เธอไปฟัง คำของใคร ใส่ร้ายกัน
ร้อนจะตาย ไปทะเล กันดีกว่า
ให้คลื่นลม มันช่วยพา ความสดใส
เอาความเหนื่อย ความล้า ปาไปไกล
นอนหาดทราย ด้วยกัน นะพวกเรา
คืนนี้ มันร้อน นอนไม่ได้
ร้อนข้างนอก แค่ร้อนกาย ยังเกินข่ม
ซ้ำยังร้อน ข้างใน ใจระทม
เปิดพัดลม เปิดแอร์ ยังแย่
พบกับเธอ เหมือนได้เจอ ส่วนที่หาย
มีที่ว่าง มากมาย ในใจฉัน
รอคอย อย่างเคว้งคว้าง ฝันกลางวัน
จนพบเธอ ช่องว่างนั้น ก็เติมเต็ม
ฉันผิดเอง ที่ไม่เคย ดูแลเธอ
ทำตัวเป็น คนมาดเซอร์ ที่เซ่อซ่า
ต้องเห็นเธอ เสียใจ เสียน้ำตา
ฉันมันคน ไม่เข้าท่า น่ารำคาญ
เอาใจใส่ ดูแล เทคแคร์เธอ
สิ่งที่เจอ คือชาเย็น อยู่อย่างนี้
ถามตรงตรง ว่าฉันคง ทำไม่ดี
หรือว่าทุก นาที ไม่มีใจ
จะเก็บใจ ไว้ให้ใคร ที่ไม่รู้
จะซ่อนใจ ไม่ได้ดู ไม่ให้เห็น
จะรักษา มันไว้ อย่างใจเย็น
เธอทำผิด อีกเมื่อไหร่ ก็ใจ
วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2550
วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
ประโยชน์ของBlog
ประโยชน์ของBlog
สวัสดีค่ะ เด็ก blog ทั้งหลาย
วันนี้ miss สตอเบอร์รี่ ก็มีข่าวดี ๆ มาเล่าให้เด็ก blog ฟัง นะคะ คุณรู้กันบ้างมั้ยว่า blog มีประโยชน์ต่อองค์กรธุรกิจอย่างไร
จะเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้ blog มีความนิยมกันอย่างแพร่หลาย อาจจะเป็นเพราะการใช้งานที่สะดวก และง่ายต่อการใช้ blog ก็เลยเป็นที่รู้จักของคนส่วนใหญ่ได้รวดเร็ว
เรามาเรียนรู้ประโยชน์ของBlog กับธุรกิจ กันดีกว่าค่ะ
ปัจจุบันนี้ บริษัทชั้นนำต่าง ๆ ของโลก ได้หันมาจับตามอง Blog ซึ่งเป็นรูปแบบของการ Marketing แบบใหม่ เนื่องจาก Blogger จะมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้อ่าน Blog สูงมาก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายสามารถโต้ตอบกันได้โดยตรง
การที่ใช้ Blog มาเป็นเครื่องมือทางการตลาดนั้น อาจเรียกได้ว่าเป็น Buzz Marketing บางบริษัทอาจเลือกเจ้าของ Blog ให้เป็น presenter ให้กับผลิตภัณฑ์ของตนเอง เช่นเสนอสินค้า ให้เจ้าของ Blog นำไปเขียนวิจารณ์หรือเขียนถึงใน Blog ของตนเป็นต้น
บางบริษัทใช้ Blog เพื่อเป็นเครื่องมือสื่อสาร หรือ PR ข่าวสารขององค์กร โดยการใช้ Blog เพื่อประกาศข่าวสารนั้น จะดูมีความเป็นกันเองและเข้าถึงลูกค้าได้อย่างเป็นมิตร เพราะเนื่องจากลูกค้าสามารถฝาก comment หรือสื่อสารกับเจ้าของ Blog ได้ทันที ทำให้บริษัทเอง จะได้ประโยชน์จากคำแนะนำที่ตรงไปตรงมาของลูกค้าอีกด้วย บริษัทชั้นนำต่างเลือกที่จะใช้ Blog มาเป็นเครื่องมือทางการตลาดกันแล้ว โดยบางแห่งใช้ทั้ง Blog อย่างเป็นทางการของบริษัท แถมยังเปิดให้พนักงานได้เขียน Blog ของตนเองอีกด้วย โดยวิธีการนี้นับเป็นการทำการตลาดโดยการสร้างการรับรู้ตราสินค้า (Brand) โดยทางอ้อมอีกด้วย
นอกเหนือจากองค์กรธุรกิจแล้ว บุคคลที่ทำงานคนเดียวหรือเป็นกลุ่ม สามารถใช้ Blog เพื่อเป็นการเผยแพร่ผลงาน หรือขายสินค้าของตนได้อีกด้วยเช่น ช่างภาพ, ศิลปิน, นักออกแบบ, นักเขียน, นักวาดการ์ตูน , ร้านค้า , ฯลฯ
สวัสดีค่ะ เด็ก blog ทั้งหลาย
วันนี้ miss สตอเบอร์รี่ ก็มีข่าวดี ๆ มาเล่าให้เด็ก blog ฟัง นะคะ คุณรู้กันบ้างมั้ยว่า blog มีประโยชน์ต่อองค์กรธุรกิจอย่างไร
จะเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้ blog มีความนิยมกันอย่างแพร่หลาย อาจจะเป็นเพราะการใช้งานที่สะดวก และง่ายต่อการใช้ blog ก็เลยเป็นที่รู้จักของคนส่วนใหญ่ได้รวดเร็ว
เรามาเรียนรู้ประโยชน์ของBlog กับธุรกิจ กันดีกว่าค่ะ
ปัจจุบันนี้ บริษัทชั้นนำต่าง ๆ ของโลก ได้หันมาจับตามอง Blog ซึ่งเป็นรูปแบบของการ Marketing แบบใหม่ เนื่องจาก Blogger จะมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้อ่าน Blog สูงมาก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายสามารถโต้ตอบกันได้โดยตรง
การที่ใช้ Blog มาเป็นเครื่องมือทางการตลาดนั้น อาจเรียกได้ว่าเป็น Buzz Marketing บางบริษัทอาจเลือกเจ้าของ Blog ให้เป็น presenter ให้กับผลิตภัณฑ์ของตนเอง เช่นเสนอสินค้า ให้เจ้าของ Blog นำไปเขียนวิจารณ์หรือเขียนถึงใน Blog ของตนเป็นต้น
บางบริษัทใช้ Blog เพื่อเป็นเครื่องมือสื่อสาร หรือ PR ข่าวสารขององค์กร โดยการใช้ Blog เพื่อประกาศข่าวสารนั้น จะดูมีความเป็นกันเองและเข้าถึงลูกค้าได้อย่างเป็นมิตร เพราะเนื่องจากลูกค้าสามารถฝาก comment หรือสื่อสารกับเจ้าของ Blog ได้ทันที ทำให้บริษัทเอง จะได้ประโยชน์จากคำแนะนำที่ตรงไปตรงมาของลูกค้าอีกด้วย บริษัทชั้นนำต่างเลือกที่จะใช้ Blog มาเป็นเครื่องมือทางการตลาดกันแล้ว โดยบางแห่งใช้ทั้ง Blog อย่างเป็นทางการของบริษัท แถมยังเปิดให้พนักงานได้เขียน Blog ของตนเองอีกด้วย โดยวิธีการนี้นับเป็นการทำการตลาดโดยการสร้างการรับรู้ตราสินค้า (Brand) โดยทางอ้อมอีกด้วย
นอกเหนือจากองค์กรธุรกิจแล้ว บุคคลที่ทำงานคนเดียวหรือเป็นกลุ่ม สามารถใช้ Blog เพื่อเป็นการเผยแพร่ผลงาน หรือขายสินค้าของตนได้อีกด้วยเช่น ช่างภาพ, ศิลปิน, นักออกแบบ, นักเขียน, นักวาดการ์ตูน , ร้านค้า , ฯลฯ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)